ดูหนังออนไลน์ ไม่มีโฆษณากดข้าม ดูหนังใหม่ปี 2024 ดูหนัง HD ฟรี อัพเดทเร็ว  

ดูหนังออนไลน์ ดูหนังใหม่ปี 2024 ดูหนัง HD ฟรี

 

รีวิวNetfilx The Silent Sea

รีวิวNetfilx The Silent Sea
รีวิวNetfilx The Silent Sea
อ่านแล้ว 145 ครั้ง

รีวิวNetflix The Silent Sea ภารกิจเสี่ยงตายที่กำลังจะเปิดเผยความลับอันดำมืดที่สุดขอดวงจันทร์ กับโอกาสสำหรับการกลับมามีแค่เพียง 10 % เพียงเท่านั้น ลูกเรือทุกคนจะมีชีวิตรอดกลับไปหรือไม่ ปริศนา ณ สถานีร้างบนดวงจันทร์กำลังจะได้เผยโฉมแล้ว

สำหรับซีรีส์ The Silent Sea จากทางNetflix ที่เกาหลีกำลังมีความพยายามขึ้นเป็นแนวหน้าในวงการซอฟต์พาวเวอร์ของโลก ซึ่งในระดับเวทีโลกหรือรางวัลต่างๆพวกเขาก็สามารถเขาไปได้ไกลถึง ออสการ์ ได้สำเร็จแล้ว ในด้านความนิยมหนังหรือซีรส์เกาหลีแนวซอมบี้และดราม่ากลายเป็นปรากฏการณ์ที่ฝรั่งเองก็ให้การยอมรับและต้องมารับชมผลงานที่พวกเขาได้สร้างสรรค์ขึ้นมา และอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของมหาอำนาจภาพยนตร์โลกนั้นเช่นเดียวกับยุคสงครามเย็น มันก็คือการปักธงในหนังแนวไซไฟที่อาจจว่าเป็นขั้นสุดของมวลองค์ความรู้และด้านศักยภาพในทางโปรดักชันของประเทศนั้นๆ ที่ต้องถึงมาตรฐาน และหลังจากความสำเร็จของในทางโปรดักชันที่ทัดเทียมกับงานของ ฮอลลีวูด ได้ใน “Space Sweepers” (2021) ของ ซงจุงกิ เมื่อช่วงต้นปี2021 ที่ผ่านมา ส่งผลให้โครงการหนัง “The Silent Sea” ของทาง Netflix เกาหลีได้ดาราระดับแม่เหล็กโลกทั้ง กงยู และ แบดูนา ที่มาร่วมแสดง คือหลักไมล์ที่ต้องจับตามองว่าถึงเวลาเอาจริงของพวกเขาแล้วหรือยัง

เนื่องด้วยความคาดหวังที่ตั้งไว้สูง และด้านศักยภาพที่เป็นไปได้ของวัตถุดิบที่รวบรวมมาทั้งนักแสดงและตัวอย่างงานสร้างที่มองดูแล้วน่าสนใจ และได้บทหนังจากนักเขียนบทมือรางวัลอย่าง พาร์อึนเคียว ที่เคยรวมงานกับผู้กำกับมากความสามารถอย่าง บงจุนโฮ ในภาพยนตร์ Mother เมื่อ2009 และยังมีโอกาสได้เขียนหนังระดับบล็อกบัสเตอร์ของเกาหลีอย่าง The Great Battle ในปี2018 มาแล้ว

แต่ทว่ามันก็อาจจะยังไม่มากพอสำหรับการสร้างมาตรฐานของความคาดหวังที่เราจะมีต่อสำหรับซีรีส์เรื่องนี้ ถึงแม้จะมีนักแสดงดาราคุณภาพระดับ กงยู และ แบดูนา อยู่ในเรื่อง เราก็ต่างคาดหวังไว้ลึกๆของตัวละครที่พวกเขาจะได้ถ่ายทอด ไอเดียวไซไฟที่น่าสนใจและบ่มเพาะมานับตั้งแต่ปี 2014 และอาจก่อนหน้านั้นแต่ช่วง 7 ปีที่พัฒนามา มันกลับยังเต็มไปด้วยรอยรั่วในตัวพล็อตอย่างไม่น่าให้อภัยเพราะดันมาตกม้าตายในเรื่องที่สำคัญอันดับแรกๆคือพื้นฐานของหนังไซไฟคือหลัการและวิธีของทางวิทยาศาสตร์ มันพลาดที่ทั้งๆมีมือเขียนบทระดับรางวัลที่ผ่านงานดราม่าในเวทีระดีบนานาชาติและในเกาหลีก็แข็งแกร่งในเรื่องของการสร้างฉากอารมณ์ แต่เรากลับเห็นแค่เพียงฉากที่รู้สึกรียูสนำไอเดียเก่าๆ จากหนังเรื่องต่างๆ (อย่างเช่น Train to Busan ปี2016) ที่มันอาจจะทำให้คนดูต้องมองและเบ้ปากว่าจะมามุขนี้อีกแล้วเหรอ หรือไม่คิดที่จะนำเสนออะไรที่แปลกใหม่หรือแตกต่างที่น่าสนใจมากพอ

ตัวหนังจะนำเสนอเรื่องของโลกในยุคอนาคตที่น้ำเหือดแห้งไปจนกลายเป็นของมีค่าที่แบ่งแยกสถานะของผู้คนได้จากสิทธิ์การได้รับน้ำ เกาหลีจึงต้องการปลุกโครงการวิจัยบนดวงจันทร์ที่เคยล้มเหลวจนต้องปิดสถานีวิจัยทิ้งเมื่อ 5 ปีก่อน โดยส่งลูกเรือและนักวิทยาศาสตร์ทางด้านพฤติกรรมศาสตร์ที่เคยศึกษาเรื่องชีววิทยาไปกับทีม โดยมีอดีตผู้รอดชีวิตจากสถานีวิจัยเมื่อ 5 ปีก่อนไปด้วยอีกคนซึ่งดูเหมือนว่าทางรัฐบาลจะไม่ได้พูดทุกอย่างที่พวกเขาควรจะได้รู้ก่อนส่งขึ้นไป

และโดยธรรมชาติของหนังแนวไซไฟธรริลเลอร์ที่อาศัยปริศนาของภารกิจและภูมิหลังความลับของตัวละครที่จะค่อยๆ เริ่มเปิดเผย เราจะได้พบเห็นอุปสรรคจากความบังเอิญและจากการกระทำของเหล่าตัวละครที่จะค่อยๆเติม ค่อยๆเปิดเผย เราจะพบเห็นอุปสรรคจากความบังเอิญและจากากรกระทำของตัวละครเข้ามารุมเร้ากลุ่มตัวละครตั้งแต่เริ่มเรื่อง และต้องจำเพาะเสมอว่าคนที่มีประโยชน์กับภารกิจมากที่สุดจำเป็นต้องตายเป็นคนแรกๆ ซึ่งว่ากันถึงจุดนี้หนังยังประคองทิศทางที่ตัวเองต้องการไปได้ แต่การค่อยๆ เผยเนื้อหาดราม่าตัวละครทีละนิดแต่ก็ไม่ได้ลงดีเทลอะไรมากมายขนาดคนดูเองจะคาดเดาว่าไม่ได้ว่าจะเซอร์ไพรส์หรือก็กลายเป็นซีนอารมณ์ร่วมให้ไม่ต่อเนื่อง เพราะมันยังต้องคอยตัดไปเล่าอีกฉากในอดีตเป็นระยะๆโดยข้อมูลใหม่นั้นไม่ได้มีความน่าตื่นเต้นมากเท่าไหร่ และเมื่อตัวหนังมีพื้นที่ที่ดูจำกัดหลบมุมอยู่แค่ในสถานีวิจัยมันก็ต้องการสิ่งเร้าใดๆ จากอย่างอื่นๆที่มากกว่ามาตรึงความสนใจในตัวผู้ชมซึ่งหนังก็มีความพยายามที่ดีแต่มันยังไม่มากพอเท่าที่ควร

ในเรื่องโปรดักชันก็มีความแปลกๆ ให้ได้เจอบ้างในฉากCGของโลกที่แสนจะแร้นแค้นเห็นถนน อาคาร และฐานยิงจรวด แต่เรื่องคุณภาพนั้นแค่ดีกว่าคลิปที่โมเดสสามมิติแบบจำลองทางโฆษณาขายพวกคอนโดขึ้นมานิดหนึ่งเท่านั้น ทั้งเรื่องรายละเอียดและการเคลื่อนกล้องที่แสนธรรมดา ที่สำคัญไปกว่านั้นคือมันติดความหลอกตาอยู่ หากจะลองเทียบกับ “Space Sweepers” มันหนักหนากว่าตรงโทนเนื้อเรื่องนั้นมันแฟนตาซีแต่เรื่องนี้มันมาทางซีเรียสจริงจังที่ควรเน้นอะไรพวกนี้ให้ดูดีและสมจริงมากกว่านี้

รับชมตัวอย่างหนัง : The Silent Sea


ลืมรหัสผ่าน | สมัครสมาชิกใหม่
1818 1980 1984
1985 1987 1988
1990 1991 1992
1993 1994 1995
1996 1997 1998
1999 2000 2001
2002 2003 2004
2005 2006 2007
2008 2009 2010
2011 2012 2013
2014 2015 2016
2017 2018 2019
2020 2021 2022
2023 2024